°
, January 30, 2025 in
Breaking News
​นายกฯ เตรียมคุย “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” จับมือแก้คอลเซ็นเตอร์-ฝุ่นควัน หวังให้ร่วมมือกันจะแก้ไขปัญหาสำเร็จเร็วขึ้น
  | ข่าว24
ข่าวธุรกิจ
0

​นายกฯ เตรียมคุย “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” จับมือแก้คอลเซ็นเตอร์-ฝุ่นควัน หวังให้ร่วมมือกันจะแก้ไขปัญหาสำเร็จเร็วขึ้น | ข่าว24

วันนี้ (28 มกราคม 2568) เวลา 12.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่    5 – 8 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ประเด็นทางด้านการท่องเที่ยวตรุษจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะมีการพูดคุยหารือนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในการเดินทางไปครั้งนี้  โดยคาดว่าทางประเทศจีนต้องการที่จะหารือในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน มีความสัมพันธ์ร่วมกันแบบพี่น้องกันมาตลอด เพราะฉะนั้นในการเดินไปในครั้งนี้ เรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน จะพูดคุยร่วมกัน รวมถึงการพูดคุยหารือเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป เพราะปีนี้ประเทศไทยและประเทศจีนจะมีความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากประเทศจีนให้ช่วยเรื่องโซเชียลปล่อยข่าวลือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ได้หารือเรื่องนี้โดยตรงแล้ว และการที่เดินทางไปจีนครั้งนี้ เพื่อหารือขอความร่วมมือในเรื่องนี้อยู่แล้ว และจากการที่ได้ใช้ AI ทำการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจเป็นภาษาจีนนั้น ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและทางการจีน นั้นก็ได้แสดงความชื่นชมที่ได้ใช้ภาษาจีน
 
ส่วนประเด็นที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องการให้นายกฯ ตั้งทีมงานเพื่อติดตามความคิดเห็นทางโซเชียลวต่อประเด็นปัญหาต่าง ๆ นั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในประเด็นดังกล่าว มีการตั้งการตั้งทีมมอนิเตอร์ว่าข่าวเท็จที่เกี่ยวกับประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเป็นกลไกของกระทรวงดีอีอยู่แล้ว ที่ต้องปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ  
 
เมื่อถามย้ำว่า จะนำประเด็นนี้ไปพูดคุยกับทางการจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วการพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง จะเป็นการพูดคุยกันในภาพรวม ส่วนเนื้อหาและรายละเอียดต้องให้กระทรวงดีอีเป็นคนไปพูดคุยต่อไป ซึ่งในส่วนของตนเองก็จะแสดงความห่วงใยในเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และพูดคุยในหัวข้อหลัก

ที่มา: ข่าวกระทรวง – ด้านเศรษฐกิจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *