ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง ‘กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ’ ซึ่งอาจใช้เข้าซื้อหุ้นของติ๊กตอก (TikTok) หากสามารถหาบริษัทอเมริกันมาซื้อกิจการของสื่อสังคมออนไลน์ของจีนแห่งนี้ได้
เมื่อวันที่เข้ารับตำแหน่งวันแรก ทรัมป์ลงนามในคำสั่งขยายเวลาการปิดใช้ติ๊กตอกในสหรัฐฯ ออกไปจนถึงต้นเดือนเมษายน เพื่อหาหุ้นส่วนหรือผู้ซื้อกิจการของติ๊กตอกตามข้อบังคับที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลโจ ไบเดน โดยตั้งเป้าถือครองหุ้นอย่างน้อย 50% ในบริษัทนี้
และในวันจันทร์ ปธน.ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า ติ๊กตอกซึ่งมีบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ของจีนเป็นเจ้าของ คือตัวอย่างธุรกิจที่กองทุนความมั่นคั่งแห่งชาติจะเข้าไปลงทุน รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกมาก
ตามปกติแล้ว กองทุนความมั่นคั่งแห่งชาติ (Sovereign wealth fund) จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์เช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้เงินส่วนเกินจากบัญชีการดุลของประเทศ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกินนี้
ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า หลายประเทศมีกองทุนดังกล่าว พร้อมประกาศว่าในที่สุดแล้วกองทุนของสหรัฐฯ จะมีมูลค่าสูงกว่าของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีกองทุนความมั่งคั่งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ข้อมูลขององค์กร International Forum of Sovereign Wealth Funds (IFSWF) ในกรุงลอนดอน ระบุว่า ปัจจุบันมีกองทุนความมั่งคั่งทั่วโลกมากกว่า 90 แห่ง ซึ่งบริหารจัดการสินทรัพย์เป็นมูลค่ารวมมากกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์
ในสหรัฐฯ ขณะนี้มีกองทุนความมั่งคั่งในระดับรัฐมากกว่า 20 แห่ง อ้างอิงจาก Center for Global Development สถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตัน โดยกองทุนใหญ่ที่สุดอยู่ที่รัฐอะแลสกา นิวเม็กซิโก และเท็กซัส ซึ่งได้รับเงินทุนจากรายได้ด้านพลังงานน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และเหมืองแร่ต่าง ๆ ที่นำไปใช้ในโครงการของรัฐเหล่านั้น เช่น การศึกษา เป็นต้น
กองทุนเหล่านี้แม้จะเป็นของรัฐ แต่มักเป็นสถาบันอิสระที่มีการบริหารจัดการของตนเองโดยไม่ขึ้นกับรัฐบาลของรัฐเหล่านั้น
ปธน.ทรัมป์ แต่งตั้งรัฐมนตรีการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ และว่าที่รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาววาร์ด ลัตนิก เป็นผู้ดูแลการก่อตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ เสียก่อน โดยคำสั่งของทรัมป์ระบุว่า แผนการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว รวมถึงคำแนะนำเรื่องรูปแบบและยุทธศาสตร์การลงทุน จะต้องถูกส่งมาให้ตนพิจารณาภายในเวลา 90 วัน
รัฐมนตรีเบสเซนต์ กล่าวว่า เป้าหมายคือการเปิดกองทุนแห่งนี้ภายใน 12 เดือน ด้านว่าที่รมต.ลัตนิก เผยว่ากองทุนดังกล่าวอาจถูกใช้ในการซื้อหุ้นของบริษัทผลิตวัคซีนต่าง ๆ ด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลโจ ไบเดน เคยศึกษาเรื่องการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเช่นกัน แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ เกิดขึ้นจนกระทั่งไบเดนพ้นจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว
- ที่มา: เอพี
(ที่มา: VOA)