ปลัดฯ ณัฐพล เปิดอบรมเสริมเขี้ยวเล็บ เตรียมดันเจ้าหน้าที่ขึ้นแท่น “อุตสาหกรรมจังหวัด” ด่านหน้าขับเคลื่อนนโยบายทั่วประเทศ
วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร “พัฒนาสมรรถนะเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เตรียมความพร้อมเป็นอุตสาหกรรมจังหวัด” โดยมี นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเศรษฐรัชต์ เลือดสกุล นายกฤศ จันทร์สุวรรณ นายวัชรุน จุ้ยจำลอง นายวีรพงษ์ เอี่ยมเจริญชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณิรดา วิสุทธิชาติธาดา รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นางสาวสุนีย์ โสภณ ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนอุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
หลักสูตรดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อพัฒนาสมรรถนะเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอุตสาหกรรมจังหวัด โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการบริหารงานสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมรองรับบทบาทความเป็น “ด่านหน้า” ของกระทรวงในระดับพื้นที่ ทั้งในด้านการส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลภาคอุตสาหกรรมในจังหวัด จัดขึ้นทั้งหมด 2 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งอุตสาหกรรมจังหวัดไม่เกิน 2 ปี และกลุ่มผู้ที่มีรายชื่อผ่านการกลั่นกรองเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง จำนวน 40 คน
ดร.ณัฐพล กล่าวว่า อุตสาหกรรมจังหวัดถือเป็นผู้แทนของกระทรวงในภูมิภาค มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่ ทั้งด้านแผนยุทธศาสตร์ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม การตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ รวมถึงการอนุมัติ อนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การฟื้นฟูแหล่งแร่ และการบูรณาการแผนระดับจังหวัดให้เชื่อมโยงกับนโยบายระดับชาติ ไม่ใช่เพียงข้าราชการของกระทรวงฯ ในตำแหน่งระดับสูงเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้นำที่สามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะต้องมีความรู้รอบด้าน ตั้งแต่นโยบาย กฎหมาย เทคโนโลยี ไปจนถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน และสามารถประสานงานกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ในการอบรมครั้งนี้ ยังได้เน้นถึงแนวโน้มสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี (Technology Transition) และปัญหาประชากรล้นเมือง (Overpopulation) รวมถึงสถานการณ์ท้าทายในปัจจุบัน อาทิ การลักลอบประกอบกิจการผิดกฎหมาย การนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) และขยะอุตสาหกรรมในเขตปลอดอากร (Free zone) การผลิตสินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. รวมถึงพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษีผ่านการจ้างแรงงานต่างด้าวและการใช้ตราสินค้า Made in Thailand อย่างไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึงนโยบาย “สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ด้วยหัวและใจ” ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ i-Industry, e-License, iSingleForm และ i-Auditor ที่จะช่วยยกระดับการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จแก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจสอบและควบคุมโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
“อสจ. ถือเป็นตัวแทนผู้ตรวจราชการกระทรวงในระดับพื้นที่ และผู้ตรวจราชการคือตัวแทนของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องมีความพร้อมทั้งด้านสมรรถนะทางการบริหาร เช่น วิสัยทัศน์ ความกล้าตัดสินใจ ความสามารถในการจัดการความขัดแย้ง รวมถึงสมรรถนะในเชิงปฏิบัติ เช่น ความมุ่งมั่นต่อผลสัมฤทธิ์ การให้บริการที่ดี และสามารถทำงานร่วมกับส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี” ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
แหล่งข่าว: ด้านเศรษฐกิจ