พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม และสร้างโอกาสให้ผู้หญิงไทยจนมาถึงวันนี้ แต่สังคมไทย ยังต้องต่อสู้กับอคติทางเพศในอีกหลายประเด็น ทั้งความรุนแรงที่มาจากความเกลียดชังต่อผู้หญิง ความคาดหวังที่มีต่อผู้หญิงในกรอบวิธีคิดชายเป็นใหญ่ การถูกจับจ้องเรื่องส่วนตัวและเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าความสามารถ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และ อีกหลายประเด็นที่เราทุกคนต้องร่วมกันต่อสู้ เพื่อทำให้ประเทศไทย เป็นพื้นที่ของผู้หญิงทุกคน เป็นพื้นที่ของคนทุกเพศ
รัฐบาลจะผลักดันนโยบายความเสมอภาคทางเพศอย่างเต็มความสามารถ ทั้งในระดับครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ ทั้งการแก้กฎหมายที่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ การขจัดความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงการพัฒนานโยบายที่เอื้อต่อการทำงานของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น การขยายวันลาหลังคลอด การทำให้ผู้ปกครองเข้าถึงสถานรับเลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ อีกทั้งจะดำเนินการสานต่อนโยบาย กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำ สร้างโอกาสให้ผู้หญิงเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมศักยภาพของเครือข่ายสตรี รวมทั้งพิทักษ์สิทธิของผู้หญิงและผู้ด้อยโอกาสในสังคมอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “3 ทศวรรษปฏิญญาปักกิ่ง : โอกาสและความท้าทายสู่ความเสมอภาคของสตรีและเด็กหญิง” ทุกคนถือเป็นแบบอย่างแห่งความมุ่งมั่น ทุ่มเททำงานเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ที่มา: ข่าวกระทรวง – ด้านเศรษฐกิจ