แกนนำส.ส.และส.ว. สหรัฐฯ ที่เข้าร่วมหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันอัวคาร ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้เรื่องเพดานหนี้สหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการช่วยคลายความกังวลในตลาดทุนโลก และกล่าวว่า สำหรับตนการพูดคุยกันเมื่อวานนี้มีผลดี นอกจากนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมกลับมาหารืออีกรอบหนึ่งในวันศุกร์
การที่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเพดานหนี้ของรัฐ ทำให้เกิดความกังวลที่สหรัฐฯ อาจผิดชำระหนี้เป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์
บุคคลที่ร่วมหารือที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ประกอบด้วย ประธานสภาผู้เเทนราษฎรเควิน เเมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้เเทนฯฮาคีม เจฟฟรียส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภามิตช์ แมคคอนเนลล์ และผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาชัค ชูเมอร์
โดยทุกฝ่ายพยายามหาจุดร่วมที่จะทำให้รัฐกู้เงินได้มากขึ้นเพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศ
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวหลังการหารือว่า “ผมได้บอกอย่างเห็นชัดเจนว่า เราจะไม่เลือกที่จะผิดชำระหนี้…อเมริกาไม่ใช่ประเทศที่เฉื่อยชา”
เงื่อนไขของฝ่ายรีพับลิกันที่นำโดยส.ส.เเมคคาร์ธีและส.ว.แมคคอนเนลล์ มีประเด็นหลักคือ รัฐบาลต้องลดการใช้จ่าย ก่อนที่ฝ่ายของตนจะยอมให้เพิ่มเพดานหนี้ แต่ฝ่ายของไบเดนยืนกรานว่าสภามีหน้าที่ให้ประเทศสามารถชำระหนี้ได้
ในมุมมองของไบเดน ประเด็นเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐ กับการเพิ่มเพดานหนี้เป็นสองหัวข้อที่หารือเเยกกันได้
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “ทุกคนในที่ประชุมเข้าใจดีถึงความเสี่ยงจากการผิดชำระหนี้ เศรษฐกิจของเราจะดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยครั้งสำคัญ มันจะเป็นอันตรายต่อเงินบำเหน็จบำนาญ และเพิ่มค่าใช้จ่ายจากการกู้ยืม”
ไบเดนอ้างข้อมูลของบริษัทมูดดี้ส์ที่ประเมินความเสี่ยงทางการเงิน ว่าชาวอเมริกันเกือบ 8 ล้านคนจะตกงาน หากรัฐบาลผิดชำระหนี้
ด้าน ส.ส.เเมคคาร์ธี เเสดงความผิดหวัง เมื่อการเจรจายังไม่มีความคืบหน้า
“ผมไม่เห็นว่ามีการขยับใด ๆ เลย” ส.ส.เเมคคาร์ธี “ผมถามเขา (ไบเดน) หลายครั้ง มีตรงไหนบ้างไหมที่เราจะประหยัดได้ แต่เขาไม่ยอมบอก (ว่าทำได้) ในสวนไหนเลย”
อย่างไรก็ตาม ส.ว.แมคคอนเนลล์ กล่าวให้การยืนยันต่อชาวอเมริกันว่า สหรัฐฯจะยังคงจ่ายหนี้ต่อไป
“สหรัฐฯ จะไม่ผิดชำระหนี้ …มันไม่เคยเกิดขึ้นและจะไม่เกิดขึ้น”
แมคคอนเนลล์แสดงความเห็นเรื่องนี้แม้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน บอกกับตัวเเทนของสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากระทรวงการคลังอาจจะไม่มีเงินชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ในสหรัฐฯ มีการกำหนดเพดานการสร้างภาระหนี้ที่ยังไม่ได้จ่ายคืน ซึ่งหมายถึงการกำหนดขีดจำกัดสำหรับกระทรวงการคลังที่จะออกตราสารเพื่อไปขายและนำเงินมาใช้สำหรับการชำระหนี้และภาระผูกพันอื่น ๆ
ทั้งนี้ระดับหนี้เเตะเพดานดังกล่าวไปเเล้วตั้งเเต่วันที่ 19 มกราคม
เดิมทีการลงมติเพื่ออนุมัติเพดานหนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติ โดยรัฐสภาอเมริกันเพิ่มเพดานหนี้ทั้งหมด 78 ครั้งตั้งเเต่ปีค.ศ. 1960
ที่มา: วีโอเอ
(ที่มา: VOA)