การประมูลพ่อพันธุ์-เเม่พันธุ์วัวในบราซิลถือเป็นมหกรรมที่คนในวงการปศุสัตว์ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีงานประมูลที่ใหญ่สุดในโลกสำหรับการซื้อวัวเนื้อพันธุ์ซีบู ที่เมืองยูบีราบา ตัวเเทนของฟาร์มทั่วโลก เช่นจากอิโดนีเซีย และซิมบับเว ไปรวมตัวกันที่นั่น
ตัวอย่างความคึกคักในธุรกิจวัวเนื้อของประเทศบราซิลยังเห็นได้จากช่องโทรทัศน์สำหรับการถ่ายทอดคอนเทนท์เกี่ยวกับวัวอย่างจริงจัง เช่น Cow Channel ที่ถ่ายทอดสดการประมูลวัว
แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของอุตสาหกรรมนี้ในบราซิล คือเเม่พันธุ์วัวเนื้อ ที่ชื่อวิอาทินา ชื่อเต็ม Viatina-19 FIV Mara Moveis
วัววัย 3 ปีตัวนี้มีร่างใหญ่มหึมา นำ้หนัก 1,100 กิโลกรัม คิดเป็นสองเท่าของวัวพันธุ์เดียวกัน ขนของมันมีสีขาวดังหิมะ และเป็นผู้ครองสถิติวัวที่มีราคาสูงที่สุดในโลก คือ 4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 150 ล้านบาท
วิอาทินา ได้รับการดูเเลอย่างกับไข่ในหิน เพราะนอกจากกล้องวงจรปิดที่คอยสอดส่องความเป็นอยู่ของมันเเล้ว ยังมีสัตวแพทย์ประจำตัวและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีปืนติดตัวคอยดูเเลใกล้ชิด เพราะเฉพาะเซลล์ไข่ของวิอาทินา สนนราคาอยูที่ 250,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 9 ล้านบาท
ภาพของวัวตัวนี้อยู่บนป้ายโฆษณาใหญ่ บนถนนทางหลวงของบราซิลและบรรดานักศึกษาสัตวแพทย์ต่างเเวะเวียนมาดูวิอาทินาด้วยตาตนเอง ราวกับการเเสวงบุญของผู้ที่เรียนสาขานี้ จนมันขึ้นชื่อว่าเป็น “ซูเปอร์คาว” (super cow) แห่งบราซิล ซึ่งมีวัวทั้งหมด 230 ล้านตัว
วิอาทินา เป็นเจ้าของรางวัลมากมาย เช่น Miss South America แห่งการจัดแข่ง Champion of the World ที่เปรียบได้กับเวทีนางงามจักรวาลของวงการวัว
วัวตัวนี้สะท้อนถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและความตื่นตัวในธุรกิจวัวเนื้อในบราซิลซึ่งเป็นประเทศส่งออกเนื้อวัวอันดับหนึ่งของโลก ด้วยปริมาณกว่า 2 ล้านตันทั้งในปี 2022 และ 2023
ตลาดหลักของเนื้อวัวบราซิลคือจีนและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ เเต่ก็มีความพยายามของรัฐบาลที่จะขยายไปสู่ตลาดพรีเมี่ยม อย่างเช่น ในตอนที่ประธานาธิบดีบราซิล หลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดาซิลวา ได้พบกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อวัว “วากิว” เมื่อเดือนที่เเล้ว
ในครั้งนั้นผู้นำบราซิลพยายามโน้มน้าวให้คิชิดะลองชิมเนื้อวัวบราซิล เผื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนใจให้เขาเชื่อในความอร่อยของวัวจากอเมริกาใต้ประเทศนี้
โจอาว เฮนริเก โมเรียรา วิอานา นักวิจัยด้านพันธุกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ กล่าวว่าความลำ้หน้าของความรู้ด้านพันธุกรรมวัวของบราซิลอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก เคียงคู่กับสหรัฐฯ เขาบอกด้วยว่าไม่มีประเทศใดในโลกที่ผสมเทียมวัวมากเท่าบราซิล
อย่างไรก็ตาม เกิดความกังวลด้านสิ่งเเวดล้อมที่มาเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมฟาร์มวัว ซึ่ง 80% ของวัวในบาซิลเป็นวัวเนื้อ
ข้อมูลจากธนาคารโลกเมื่อเดือนที่เเล้วเปิดเผยว่าร้อยละ 86 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบราซิลมาจากการผลิตอาหาร ซึ่งหลัก ๆ ก็คือการผลิตเนื้อวัวและถั่วเหลือง พื้นที่ขนาดใหญ่ของป่าแอมะซอนถูกเปลี่ยนให้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจก ส่วนวัวนั้นก็ปล่อยก๊าซมีเทนสู่ธรรมชาติ ซึ่งมีผลร้ายต่อสภาพอากาศ
บทความของเอพี ระบุถึงการพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาในลายรูปแบบ เช่นการให้วัวถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ในอายุที่น้อยลง เพราะวัวพันธุ์ดีจะโตเร็วและมีนำ้หนักเนื้อเข้าเกณฑ์ก่อนปกติ อีกแนวทางหนึ่งคือการปลูกหญ้าคุณภาพสูงที่เป็นอาหารวัว หรือการพัฒนาพันธุกรรมวัวให้เป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจกน้อยลง
ขนาดมหึมาและภาพความสมบูรณ์ตามาตรฐานสายพันธุ์อย่างที่เห็นจาก ซูเปอร์คาว วิอาทินา ยังถูกตั้งคำถามว่าเหมาะกับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือไม่
คนในวงการฟาร์มวัวจากรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ แกรนท์ วาสส์เบิร์ก กล่าวว่าวิอาทินา คือ “ตัวประหลาดที่มนุษย์สร้างขึ้น” เพราะวัวควรอยู่ได้จากการกินหญ้า “นั่นเป็นวิธีการผลิตอาหารป้อนโลก”
พีเจ บัดเลอร์ ผู้จัดการธุรกิจต่างประเทศของบริษัท Trans Ova Genetics ที่สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นกรรมการตัดสินการประกวดวัวกล่าวว่าวัวพันธุ์ดีอย่าง วิอาทินา มีต้นทุนการเลี้ยงสูงเกินกว่าจะได้กำไรในการเลี้ยงให้มีจำนววนมากพอเชิงพาณิชย์ เพราะความต้องการพลังงานของมันไม่สามาารถอาศัยการให้หญ้าเป็นอาหารได้อย่างเดียว
ในเรื่องนี้ เนย์ ปิร์เอียรา เจ้าของร่วมของเปอร์คาวตัวนี้ กล่าวว่าถ้าจะให้วิอาทินาอิ่มท้องจากการหาหญ้ากินเองก็เป็นไปได้ เพราะวัวตัวอื่น ๆ ในฟาร์มของเขาก็ทำเช่นั้น แต่ว่า วิอาทินาต้องการอาหารบำรุงเพื่อเพิ่มการผลิตเซลล์ไข่
ในตอนนี้มันกำลังตั้งท้องเป็นครั้งเเรก และปิร์เอียราวางแผนที่จะขายเซลล์ไข่ของซูเปอร์คาวตัวนี้ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐฯ และอินเดียด้วย
- ที่มา: เอพี
(ที่มา: VOA)