นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายประชาชนและนางรำที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมรับฟังการบรรยายประวัติความเป็นมาของพญาศรีสัตตนาคราช จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมทำพิธีกล่าวบูชาพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมอธิษฐานจิต และถวายเครื่องบวงสรวงวาง พานบายศรี (ขันหมากเบ็ง) บูชาต่อพญาศรีสัตตนาคราช ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับมอบ “พญานาคเกี้ยว” จากนาย คฑา ชินบัญชร ตัวแทนชาวจังหวันครพนม เพื่อเป็นของที่ระลึกด้วย และรับมอบเชิงตะเกียง จาก นายปรีชา สอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน เพื่อจุดและวางบนเรือไฟโบราณ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมชมการแสดงเรือไฟบก ซึ่งเป็นการจัดแสดงครั้งแรก ในโอกาสประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2 / 2568
โดยเรือไฟที่นำมาจัดแสดง เป็นเรือไฟจากอำเภอท่าอุเทน ประกอบขึ้นจากไม้ไผ่หลายร้อยลำ เมื่อชมในระยะใกล้ จะแสดงถึงความสามัคคีของคนในชุมชน ในการร่วมจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ซึ่งการแสดงเรือไฟโดยปกติแล้ว ผู้ชมจะไม่ได้เห็นโครงสร้างของเรือไฟ แต่จะเห็นเพียงองค์ประกอบลวดลายต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นจากตะเกียงไฟ ในวันออกพรรษา เท่านั้น จังหวัดนครพนม มุ่งหวังในการใช้ทุนทางวัฒนธรรม เพื่อยกระดับเทศกาลไหลเรือไฟให้นานาชาติรู้จัก โดยมีเป้าหมายให้ เทศกาลไหลเรือไฟ เป็น เทศกาลเรือไฟระดับโลกในอนาคต
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับชมชุดการแสดงประทีปไหลเรือไฟนฤมิตรนาฏกรรม เหนือลำแม่น้ำโขง จากตัวแทน โรงเรียนเชียงยืนวิทยา และโรงเรียนบ้านโพนจาน ก่อนเดินทางกลับเข้าที่พัก
สำหรับวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2/2568 ณ หอประชุมภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมหาวิทยาลัยนครพนม จากนั้นในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางต่อไปยังด่านศุลกากรนครพนม เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ที่มา: ข่าวกระทรวง – ด้านเศรษฐกิจ