°
, October 10, 2024 in
Breaking News
การเยือนทางการของนายปรัก สุคน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับกัมพูชา
ข่าวระดับโลก
0

การเยือนทางการของนายปรัก สุคน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับกัมพูชา

การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา มุ่ง “การยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติสุขและความมั่งคั่งร่วมกันที่มองไปข้างหน้า”

นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ตามคำเชิญของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ในระหว่างการเยือน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ได้หารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่กระทรวงการต่างประเทศ และได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมระหว่างไทยกับกัมพูชาและมิตรภาพที่เข้มแข็งทั้งในระดับผู้นำและประชาชน รวมทั้งความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายยินดีเป็นอย่างยิ่งกับมูลค่าการค้าการลงทุนรวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย

มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาเติบโตถึงเกือบร้อยละ ๒๓ จาก ๘ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี ๒๕๖๔ เป็น ๙.๘ พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๕๖๕ การลงทุนโดยตรงของไทยในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็นกว่า ๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ๒๕๖๕ ขณะที่การลงทุนโดยตรงของกัมพูชาในไทยเพิ่มขึ้นเป็น ๑๓๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตกว่าร้อยละ ๘

นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปกัมพูชาในปี ๒๕๖๕ มีจำนวนกว่า ๘๕๐,๐๐๐ คน ทำให้ไทยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในปีที่ผ่านมา ขณะที่มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาที่เดินทางมาไทยเกือบ ๔๐๐,๐๐๐ คนในช่วงเวลาเดียวกัน

ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าทั้งสองประเทศมีศักยภาพที่จะร่วมมือกันได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต และเห็นความจำเป็นของการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องรวมพลังกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความยืดหยุ่นของทั้งสองประเทศท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก ด้วยเป้าหมายดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความมั่งคั่งระหว่างไทยกับกัมพูชาในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  • ความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดเพื่อความมั่งคั่งร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อผสานพลังและศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและกัมพูชา โดยผ่านการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประสานกฎระเบียบและอำนวยความสะดวกด้านการค้าเพื่อการบรรลุเป้าหมายการทวิภาคีที่ ๑.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ๒๕๖๘ รวมทั้งเพื่อยกระดับความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานระหว่างสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความเชี่อมโยงทางกายภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองฝ่าย

ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีดอน ปรมัตถ์วินัย และรองนายกรัฐมนตรีปรัก สุคน ได้เป็นประธานในพิธีเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ไปพลางก่อน ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย การเปิดใช้สะพานดังกล่าวเป็นหมุดหมายสำคัญของการเข้าสู่ศักราชใหม่ของความเชื่อมโยงและความมั่งคั่งร่วมกันของสองประเทศ โดยสะพานดังกล่าว ซึ่งเป็นสะพานมิตรภาพแห่งแรกระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเป็นช่องทางการค้าหลักคิดเป็นมูลค่ากว่าร้อยละ ๖๐ ของมูลค่าการค้าชายแดนทั้งหมดระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมา ต้องอาศัยแต่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต ซึ่งคับแคบและแออัด รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับกัมพูชา และกระตุ้นการค้าการลงทุนตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ซึ่งเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา-เวียดนาม

ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการยกระดับความร่วมมือด้านการเงินและการธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายขอบเขตบริการชำระเงินข้ามแดนโดย QR Code ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ ให้ครอบคลุมการโอนเงินกลับประเทศของแรงงานกัมพูชาในไทย

  • ความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพื่อสันติสุขและความมั่งคั่งร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงสองฝ่ายในทุกระดับ โดยผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ และการประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาและความท้าทายร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกให้มีความคืบหน้า เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์และในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยฝ่ายไทยเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วม ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไทยและกัมพูชาจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอื่น ๆ เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าวซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนจากหลายประเทศ

ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางที่จะเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตามที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน โดยฝ่ายไทยได้เสนอพื้นที่นำร่อง ๑๐ แห่ง และพร้อมเริ่มดำเนินความร่วมมือดังกล่าวในในโอกาสแรก เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

สืบเนื่องจากเหตุอัคคีภัยในเมืองปอยเปตเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๖๕ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการตอบสนองต่อเหตุภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างสองประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกันสำหรับเหตุฉุกเฉินใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

  • ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อมิตรภาพอันยั่งยืน

ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพในระดับประชาชนต่อประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของไทยและกัมพูชาโดยผ่านการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นพื้นฐานอันมั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาในอนาคต

ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชน รวมทั้งจะแสวงหาแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่จะสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชน

  • ความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นเพื่อสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค

ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยปรารถนาที่จะเห็นความคืบหน้าของความร่วมมือในกรอบ ACMECS ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของการคงไว้ซึ่งความเป็นปึกแผ่นและความเป็นแกนกลางของอาเซียนในการรับมือความท้าทายต่าง ๆ ที่สำคัญต่อภูมิภาค ทั้งสองประเทศจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอาเซียนในทุกมิติ

ในโอกาสนี้ ประเทศไทยได้ขอบคุณกัมพูชาที่สนับสนุนไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ตด้วย

แหล่งข่าว:
กระทรวงการต่างประเทศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *