ซาอุดิอาระเบียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่เป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกประกาศในวันอาทิตย์ว่า ทุกประเทศจะร่วมกันลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 1.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ไปจนถึงสิ้นปี เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพของตลาด
คำประกาศของสมาชิกกลุ่มโอเปกนี้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่เชื่อว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเหล่านี้จะทำตามคำสัญญาที่จะเพียงเดินหน้ารักษาระดับการลดกำลังการผลิตไว้ที่วันละ 2 ล้านบาร์เรลในการประชุมออนไลน์ของรัฐมนตรีกลุ่มซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีจากรัสเซีย ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์นี้
เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งรวมถึง 13 ประเทศสมาชิกดั้งเดิมและพันธมิตรอื่น ๆ ที่มีรัสเซียอยู่ด้วย ตกลงที่จะลดการผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2022 จนถึงสิ้นปี ค.ศ. 2023 โดยการตัดสินใจดังกล่าวทำให้กรุงวอชิงตันไม่พอใจอย่างมาก เพราะปริมาณน้ำมันที่ลดลงทำให้ราคายิ่งสูงขึ้น
ในเวลานั้น สหรัฐฯ แย้งว่า โลกต้องการเห็นราคาน้ำมันลดลงเพื่อช่วยสนันสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเพื่อป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียหาเงินมาเพิ่มสำหรับการเดินหน้าทำสงครามในยูเครน
การประกาศลดกำลังการผลิตของโอเปกพลัสโดยไม่ได้มีฝ่ายใดออกมาเรียกร้องนี้หมายถึง ตัวเลขการลดการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า รัฐบาลกรุงริยาดจะลดการผลิตน้ำมันลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ อิรักจะลดกำลังการผลิตของตน 211,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะเดียวกัน อเลกซานเดอร์ โนวัก รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวในวันอาทิตย์ว่า มอสโกจะยืดเวลาการลดการผลิตน้ำมันวันละ 500,000 บาร์เรลไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากประกาศลดปริมาณการผลิตของตนเพียงลำพังในเดือนกุมภาพันธ์ หลังชาติตะวันตกออกมาตรการควบคุมเพดานราคาออกมา
ทั้งนี้ หลังรัสเซียประกาศการตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันของตนเองออกมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นว่า ความเป็นพันธมิตรของรัสเซียกับประเทศสมาชิกโอเปกอื่น ๆ น่าจะกำลังลดระดับลง แต่คำประกาศของโอเปกพลัสล่าสุดนี้กลับแสดงให้เห็นว่า สมาชิกในกลุ่มยังคงเหนียวแน่นกันอยู่เช่นที่เคยเป็นมา
แถลงการณ์จากกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียระบุว่า การปรับลดกำลังการผลิตของตนนั้นเป็นมาตรการป้องกันที่มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังเกิดวิกฤตธนาคารเนื่องจากการล้มครืนของธนาคาร 2 แห่งในสหรัฐฯ และการที่ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ต้องขายกิจการของตนให้กับธนาคารยูบีเอส (UBS) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
- ที่มา: รอยเตอร์
(ที่มา: VOA)