ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามในกฤษฎีกาฉบับใหม่ในวันอังคาร ซึ่งมีผลให้เครมลินเข้าควบคุมสินทรัพย์ในรัสเซียของบริษัทพลังงานต่างชาติ 2 แห่งเป็นการชั่วคราว ส่งสัญญาณให้ทั่วโลกรับรู้ว่า รัฐบาลมอสโกจะสามารถเลือกทำการเช่นนี้กับธุรกิจต่างชาติอื่นใดก็ได้ หากตนต้องการ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
รายงานข่าวระบุว่า กฤษฎีกานี้ที่น่าจะเป็นการเสนอให้เห็นภาพวิธีตอบโต้ของรัสเซีย หากรัฐบาลประเทศใด ๆ ทำการยึดทรัพย์สินของรัสเซีย แสดงให้เห็นว่า มอสโกนั้นได้เริ่มดำเนินการกับธุรกิจสาขาของบริษัท ยูนิเปอร์ (Uniper SE) ของเยอรมนีและต่อสินทรัพย์ของบริษัท ฟอร์ทุม (Fortum Oyj) ของฟินแลนด์แล้ว
กฤษฎีกานี้ระบุด้วยว่า รัสเซียจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อโต้ตอบแผนงานที่ไม่ชัดเจนของสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ซึ่งมอสโกกล่าวว่า “ไม่เป็นมิตรและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”
เนื้อหาของกฤษฎีกานี้ระบุว่า หุ้นของบริษัททั้งสองแห่งนี้ได้เข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นการชั่วคราวของ โรซิมุชเชสต์โว (Rosimushchestvo) ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลทรัพย์สินของรัฐบาลกลางแล้ว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียควรจะต้องร่วมรับผิดชอบต้นทุนของความเสียหายที่เกิดจากสงครามในยูเครน แม้จะมีอุปสรรคทางกฎหมายอันมีนัยสำคัญอยู่ที่ทำให้การเข้ายึดสินทรัพย์สำคัญ ๆ ของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้แล้วเป็นไม่ได้ก็ตาม
การประกาศยึดสินทรัพย์ธุรกิจต่างชาติของรัฐบาลรัสเซียนี้เกิดขึ้น หลังจากซีอีโอของ แบงค์ วีทีบี (Bank VTB PAO) ซึ่งเป็นของรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียควรพิจารณาเข้ายึดและทำการจัดการสินทรัพย์ของบริษัทต่างชาติ เช่น ฟอร์ทุม จนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ
สื่อ TASS ของรัสเซียรายงานโดยอ้างข้อมูลจาก โรซิมุชเชสต์โว ว่า “กฤษฎีกานี้ไม่ได้มีผลต่อประเด็นความเป็นเจ้าของและไม่ได้กีดกันเจ้าของสินทรัพย์ทั้งหลายออกไปด้วย การจัดการจากภายนอกนั้นเป็นไปในลักษณะชั่วคราว แต่ก็มีความหมายว่า เจ้าของดั้งเดิมนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะทำการตัดสินใจด้านการบริหารอีกต่อไปแล้ว”
- ที่มา: รอยเตอร์
(ที่มา: VOA)